ทริปนี้เป็นทริปที่6 แล้วต่อจากทริปที่5ที่ไปเที่ยวสะพานยีลาปันและน้ำตกสุขทาลัย โดยจุดเริ่มต้นที่น้ำตกสุขทาลัย ขับออกมาจากน้ำตกสุขทาลัยจนถึงปากทาง ใช้เส้นทาง410 ยะลา ไปจนถึงแยกพงยือไรเลี้ยวซ้ายจนถึงแยกมลายูบางกอกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย15 จนถึงห้าแยกสะเตงเลี้ยวขวาเข้าถนนสิโรรสสาย2 จนถึงสี่แยกโรงพยาบาลยะลาให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 409 ข้ามสะพานท่าสาบเข้าช่องโคกโพธิ์-สะบ้าย้อย ตรงไป2ไฟแดงผ่านสามแยกเตาปูนขับไปถึงแยกไฟแดงให้เลี้ยวซ้ายเข้าวัดคูหาภิมุข
วัดคูหาภิมุข หรือ วัดหน้าถ้ำ ตั้งอยู่เลขที่ 136 หมู่ 1 บ้านหน้าถ้ำ ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ในปีพ.ศ. 2390 ผู้ใหญ่บ้านอาศัยอยู่ที่บ้านหน้าถ้ำ ได้สร้างวัดคูหาภิมุขเพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลในหมู่บ้าน ภายในวัดคูหาภิมุขมีถ้ำใหญ่ ประดิษฐาน พระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ ภายในถ้ำ ยังมีหินงอกหินย้อย และน้ำใสสะอาดไหลริน จากโขดหิน
วัดคูหาภิมุข เป็นวัดที่สำคัญของเมืองยะลา มีพิพิธภัณฑ์ศรีวิชัย เก็บวัตถุโบราณที่ได้มาจาก วัดถ้ำ ภูเขากำปั่น พระพิมพ์ดินดิบ สถูปเม็ดพระศก อิฐฐานพระพุทธรูป จอมพลแปลก พิบูลสงคราม เปลี่ยนชื่อ "วัดหน้าถ้ำ" เป็น "วัดคูหาภิมุข"
พระพุทธไสยาสน์(พ่อท่านบรรทม) เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ปั้นด้วยดินเหนียวโดยใช้ไม่ไผ่เป็นโครง สร้างขึ้นสมัยศรีวิชัยรุ่งเรืองราว พ.ศ. 1300หรือสมัยเดียวกับพระบรมธาตุเมืองนคร มีขนาดความยาว 81 ฟุต 1 นิ้ว ประดิษฐาน ภายในถ้ำคูหาภิมุข เดิมชื่อ วัดหน้าถ้ำ กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478 วัดคูหาภิมุข มีพระพุทธรูป สมัยศรีวิชัย สมัยสุโขทัย สมัยอู่ทอง
ยักษ์หน้าถ้ำคูหาภิมุขหรือพ่อท่านเจ้าเขา มีรูปร่างคล้ายคนป่าเผ่าซาไก ตัวดำผมหยิก ไว้หนาวเครารุงรัง มีเขี้ยวงอกออกมาพันริมฝีปาก มือทั้งสองจับไม้กระบองที่มีหัวกะโหลกเป็นมนุษย์ มีงูจงอางเป็นสายสร้อยคล้องคอ มีหน้าที่เฝ้าหน้าถ้ำคูหาภิมุข มิให้ผู้ใดเข้ามาขโมยทรัพย์สมบัติภายในถ้ำ